10 เรื่องแย่ที่มีแต่บาริสต้าเข้าใจ

10 เรื่องแย่ที่มีแต่บาริสต้าเข้าใจ

โดย Ruby Browne (ต้นฉบับจากที่นี่ครับ)

ผู้เขียน (Ruby) ทำงานเป็นบาริสต้าในอเมริกา แอบบ่นถึงพฤติกรรมของลูกค้าที่บางทีเจ้าตัวไม่รู้ตัวว่าทำร้ายจิตใจคนทำกาแฟแค่ไหน
มีอะไรบ้างมาดูกัน

 

หมายเหตุ บางเรื่องอาจจะแตกต่างจากร้านกาแฟบ้านเราบ้าง แต่บางเรื่องก็เป็นเรื่องสากล ภาษาที่เค้าใช้จริงๆจะดูจริงใจ (มีหยาบคายบ้าง) บ้างอันก็ไม่เกี่ยวกับเท่าไหร บางส่วนแปลสรุปๆเอานะ

 


 

1.บอกว่าทำกาแฟให้ผิด แต่ไม่ยอมรับแก้วใหม่

ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะถ้าในช่วงที่คนเยอะมากๆ ถ้าคุณบอกพนง.พวกเค้ายินดีจะทำให้คุณใหม่อยู่แล้ว แม้ว่าจะบางทีอาจจะคุณที่ลืมบอกว่าเป็นดีแคฟหรือเป็นกาแฟเย็น แต่ถ้าคุณไปบอกบาริสต้าว่าทำให้ผิด แต่ไม่เอาแก้วใหม่เพราะ “ไม่มีเวลา” … คุณพลาดแล้ว คุณมีทางเลือกสองทางคือ กินๆไป หรือไม่ก็ให้เค้าทำแก้วใหม่ให้ การที่เดินไปบอกแค่ว่าเค้าทำผิดแต่ไม่ยอมให้แก้ไขก็เหมือนไปด่าเค้าเฉยๆนั่นแหละ ไม่มีใครชอบหรอก

2. ตั้งกาแฟค้างไว้

กาแฟแบบเอสเพรสโซ่จะมีช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดื่ม สตาร์บั้คใช้คำว่า “ช็อตตาย” เพื่อให้พนง.ทำงานให้เร็วขึ้นโดยไม่ทิ้งช็อตกาแฟไว้นานเกินไป การตั้งกาแฟร้อนไว้เฉยๆ ครีม่าจะเริ่มหาย, อุณหภูมิจะลดลง ยิ่งตั้งไว้นานกาแฟแก้วนั้นจะยิ่งรสชาติผิดเพี้ยนไปจากความตั้งใจของบาริสต้าที่ตั้งใจทำให้คุณ
(การละลายของน้ำแข็งในกาแฟเย็นก็เจือจางกาแฟเช่นเดียวกัน)

 

3. สั่งคาปูชิโน่แบบโฟมล้วน ( Bone-Dry Cappucino)

คาปูชิโน่คือ โฟมนม 1/3 นมร้อน 1/3 และเอสเพรสโซ่ 1/3 นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมแก้วคาปูถึงมีแก้วพิเศษและมักจะมีแค่ขนาดเดียว การสั่งคาปูชิโน่แบบเอาแต่โฟมนมมันไม่ใช่คาปู และที่สำคัญ มันทำยาก ถ้าสั่งแก้ว 16 ออนซ์เราต้องสตีมนม 32 ออนซ์, มันเปลือง จะสั่งแบบนี้ทำไม? ผมไม่คิดว่าคุณจะดื่มมันได้ด้วย (ใช้ช้อนตักกินไม่นับ) แล้วยิ่งถ้าใครสั่งแบบนี้แล้วเอาฝาแก้วมาปิดนะ… ขอใช้สิทธิไม่ทำแก้วหน้าให้ได้มั้ย?

 

4. สั่งเอสเพรสโซ่ใส่น้ำแข็ง

โอเค ข้อนี้เราจะไม่ถกกันว่าการเอาเอสเพรสโซ่ใส่น้ำแข็งมันจะดีจะแย่ยังไง เราจะพูดถึงไอพวกหัวหมอ ที่สั่งเอสเพรสโซ่สองช็อตใส่น้ำแข็ง แล้วก็เดินไปเทนมตรงเคาท์เตอร์… นมตรงนั้นเค้าไว้เติมถ้ากาแฟมันเข้มไป ไม่ใช่ให้คุณ(มึง)หัวหมอได้กินลาเต้แบบประหยัด โอเค้?

(สั่งเอสเพรสโซ่ใส่น้ำแข็งแล้วเอาไปเติมนมเอง ราคาจะถูกว่าสั่งลาเต้ แต่เพิ่งรู้ว่าทำวิธีนี้ได้จากนี่แหละ น่าลองแหะ 555555555+)

 

5. สั่งเครื่องดื่มแบบ “ขอร้อนพิเศษ”

นม … มันไหม้ได้ ถ้าคุณสั่งกาแฟแบบ “ขอร้อนกว่าปกตินะ” คุณกำลังขอให้บาริสต้าทำลายรสชาติที่ถูกคิดค้นมาในอุณหภูมิที่พอเหมาะ… มันแย่มาก… ถ้าคุณต้องการให้กาแฟมันร้อนกว่าปกติเพราะต้องเดินทางไกลๆแล้วอยากให้มันยังร้อน… ด้วยความเคารพ, ไปซื้อแก้วใหม่ที่ร้านอื่นใกล้ๆที่คุณจะไปจะดีกว่าครับ

(อันนี้อาจจะดูไม่ง้อลูกค้า แต่คนเขียนพูดในแง่ที่ต้องการให้คุณได้เสพกาแฟที่ดีมากกว่าจะยอมทำลายรสชาติเพียงเพื่อความสะดวกครับ)

 

6. เข้าร้านที่ไม่ใช่ สตาร์บั้ค แล้วสั่ง “คาราเมล แมคคิอาโต้”

แมคคิอาโต้ จริงๆคือ เอสเพรสโซ่ปิดด้วยโฟมนมแค่เล็กน้อย มันแตกต่างจากเมนูในสตาร์บั้คอย่างสิ้นเชิง จริงอยู่ว่าตอนนี้บาริสต้าแทบทุกคนเข้าใจว่าเวลาคุณสั่ง “คาราเมล แมคคิอาโต้” สิ่งที่คุณต้องการจะกินคือ “คาราเมล-วนิลา ลาเต้” แล้วทุกคนก็คงจะทำกาแฟแก้วนี้ให้คุณโดยที่ไม่แก้ชื่อเมนูให้

สิ่งที่ต้องการจะบอกคือ การสั่งชื่อเมนูของร้านอื่นในร้านที่ไม่ใช่ร้านนั้น ก็เหมือนเรียกชื่อแฟนเก่าใส่แฟนใหม่นั้นละครับ

(ยกเว้นร้านที่มีเมนู คาราเมลแมคคิอาโต้เหมือนกัน แต่รู้สึกว่าสตาร์บั้คจะจดลิขสิทธิ์ชื่อนี้ไปแล้วนะ ไม่แน่ใจ)

7. บ่นว่ากาแฟแพง

โอเค, คุณอาจจะรู้ว่าบาริสต้าที่ยืนหลังบาร์อาจจะไม่เจ้าของและไม่ได้เป็นคนตั้งราคาเอง คุณก็แค่จะ(แอบ)บ่นๆ แต่คุณครับ, บาริสต้า(ที่ดี)ส่วนใหญ่ตั้งใจทำกาแฟมาก มันคือความตั้งใจ มันคือศิลปะ คุณไปตีค่าราคาศิลปะว่าราคาไม่ถึงกับที่ศิลปินตั้งไว้ มันก็การดูถูกศิลปินนะครับ ด้วยความเคารพ

 

8. เต๊ะท่าว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่นเวลาสั่งกาแฟแบบไม่เหมือนคนอื่น

แค่กินกาแฟไม่ใส่น้ำตาล หรือสั่งกาแฟแบบเพิ่มพิเศษพิสดารยังไงก็ไม่ได้ว่าคุณเป็นฮีโร่หรือสุดยอดนักกินกาแฟ ต่างคนต่างก็มีวิธีดื่มด่ำกาแฟในรูปแบบของตัวเอง เข้าใจตรงกันนะ

 

9. รำคาญเวลาบาริสต้าถามความต้องการ

เชื่อเถอะว่าเวลาเราถามว่าจะเอาแก้วขนาดไหน, ทานที่นี้หรือกลับบ้าน, ร้อนหรือเย็น, หวานน้อยหวานมาก หรือถามมากกว่านั้นเกี่ยวกับเมนูที่คุณสั่ง นั่นคือเพื่อจะทำเครื่องดื่มให้ถูกใจคุณที่สุด อย่ารำคาญเลย ได้โปรด

 

10. คุยโทรศัพท์ระหว่างสั่ง

รู้ว่าไอสายที่คุยอยู่มันสำคัญครับ แต่คุยให้เสร็จค่อยสั่ง หรือไม่ก็ค่อยโทรกลับตอนสั่งเสร็จแล้วครับ ได้โปรดเถอะ (ดูข้อ 9 ประกอบด้วย)